อย่างที่รู้กันว่ารถ EV หรือ รถยนต์ไฟฟ้า เข้ามาทำตลาดในบ้านเราหลายปีจนตอนนี้ได้รับความนิยม และเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่แพ้รถน้ำมันเลยก็ว่าได้ ทั้งในแง่ของความประหยัด ชาร์จไฟไม่ง้อน้ำมัน ในแง่ของสิ่งแวดล้อม เพราะเป็นพลังงานสะอาด ไม่ปล่อยก๊าซเสีย ควันดำ และดีไซน์ที่มักจะดูล้ำสมัย จะเห็นได้ว่ามีรถไฟฟ้าบนท้องถนนเยอะมาก ๆ และในปี 2023-2024 ก็มีรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ ๆ ออกมาแข่งขันกันอย่างดุเดือด จนเลือกไม่ถูกกันเลย วันนี้ BestieBrand เลยรวม 10 อันดับ รถยนต์ไฟฟ้า รถ EV น่าซื้อ ราคาไม่เกิน 1.5 ล้าน ฉบับอัปเดต 2023-2024 มาฝากทุกคนกัน
รถยนต์ไฟฟ้า มีข้อดีอย่างไร
- ประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อม
ไม่มีการเผาไหม้ในการขับเคลื่อนเครื่องยนต์ ทำให้ไม่มีการปล่อยไอเสีย ไม่ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
- ประหยัดค่าใช้จ่าย และค่าซ่อมบำรุง
แน่นอนว่าไฟฟ้าโดยทั่วไปยังมีราคาถูกกว่าน้ำมันเบนซิน ส่งผลให้ต้นทุนด้านเชื้อเพลิงลดลง และรถยนต์ EV ยังมีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาน้อยกว่ารถเครื่องยนต์สันดาป เนื่องจากมีชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวน้อยกว่าและไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง
- การทำงานที่เงียบและราบรื่น
รถยนต์ไฟฟ้า มีความเงียบกว่ารถทั่วไป เพราะไม่มีเสียงเครื่องยนต์และการสั่นสะเทือน ช่วยลดมลพิษทางเสียง ขับขี่สงบและสะดวกสบายยิ่งขึ้น
- ขับขี่เร้าใจ
โดยปกติรถยนต์ไฟฟ้ามักจะมีแรงบิดที่มากกว่า ออกตัวได้เร็วกว่า ทำให้อัตราเร่งดีกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมัน
- ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ
ปัจจุบันประเทศไทยมีนโยบายมาตรการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) เช่น การลดภาษีนำเข้า การลดภาษีสรรพสามิต รวมถึงการให้เงินสนับสนุนยานยนต์ไฟฟ้าจำนวน 150,000 บาทต่อคัน เป็นมาตรการของภาครัฐที่ออกมาเพื่อส่งเสริมการใช้รถ EV
รวม 10 อันดับ รถยนต์ไฟฟ้า รถ EV น่าซื้อ ราคาไม่เกิน 1.5 ล้าน อัปเดต 2023-2024
1. BYD Dolphin
BYD Dolphin
รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นมาแรงจาก BYD บริษัทรถยนต์ไฟฟ้ายักษ์ใหญ่จากประเทศจีน ที่ได้รับความสนใจไม่น้อยด้วยดีไซน์ที่สวย และราคาเปิดตัวที่ดึงดูด ซึ่งเปิดตัวเมื่อ 6 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา โดย BYD Dolphin เป็นรถยนต์ไฟฟ้า 5 ประตู 5 ที่นั่ง ในกลุ่ม B-segment สไตล์ City Car โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่ดูล้ำสมัย ภายในกว้างขวาง ไม่อึดอัดด้วยหลังคากระจกขนาดใหญ่ ครอบคลุมทั้งห้องโดยสาร ด้านระบบความปลอดภัยใส่มาครบครัน เช่น ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา ระบบป้องกันการลื่นไถลขณะขับขี่ ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ ระบบเตือนเมื่อรถออกจากเลน เป็นต้น พร้อมรับประกันแบตเตอรี่นาน 8 ปี หรือ 160,000 กม.
BYD Dolphin ออกมาทั้งหมด 2 รุ่นย่อย คือ
– รุ่น Standard Range ขับเคลื่อนล้อคู่หน้า กำลังสูงสุด 70 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 180 นิวตันเมตร ทำอัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร / ชั่วโมง 12.3 วินาที ระยะทางวิ่งสูงสุด 410 กิโลเมตร
– รุ่น Extended Range ขับเคลื่อนล้อคู่หน้า กำลังสูงสุด 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 310 นิวตันเมตร ทำอัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร / ชั่วโมง 7 วินาที ระยะทางวิ่งสูงสุด 490 กิโลเมตร
ราคา BYD Dolphin
รุ่น Standard Range ราคา 699,999 บาท
รุ่น Extended Range ราคา 859,999 บาท
(*ราคาหลังจากได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ)
ดูรายละเอียด : https://www.reverautomotive.com/model/dolphin/overview
2. BYD Atto 3
BYD Atto 3
อีกหนึ่งรุ่นฮอตของ BYD ซึ่งถือเป็นรุ่นพี่ของเจ้า Dolphin โดยเปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทยเมื่อ 10 ตุลาคม 2565 แต่ยังเป็นที่นิยมจนถึงปัจจุบันด้วยดีไซน์ที่ดูล้ำสมัย และออฟชั่นที่ใส่มาแน่น ๆ ตามแบบฉบับค่ายรถยนต์จีน โดย BYD Atto 3 ถือเป็นรถในกลุ่ม B-SUV ที่มีมิติตัวรถกว้างขวาง นั่งสบาย เหมาะสำหรับเป็นรถครอบครัว ด้านระบบความปลอดภัยให้มาจัดเต็ม เช่น ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวของรถ ระบบป้องกันการลื่นไถลขณะขับขี่ ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา มีระบบช่วยขับหรือ Adaptive Cruise Control จะทำงานถึงจุดหยุดนิ่ง เป็นต้น พร้อมรับประกันแบตเตอรี่นาน 8 ปี หรือ 160,000 กม.
BYD Atto 3 ออกมาทั้งหมด 2 รุ่นย่อย คือ
– รุ่น Standard Range ขับเคลื่อนล้อคู่หน้า พละกำลังสูงสุด 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 310 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร / ชั่วโมง 7.3 วินาที ระยะทางวิ่งสูงสุด 410 กิโลเมตร
– รุ่น Extended Range ขับเคลื่อนล้อคู่หน้า พละกำลังสูงสุด 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 310 นิวตันเมตร ทำอัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร / ชั่วโมง 7.3 วินาที ระยะทางวิ่งสูงสุด 480 กิโลเมตร
ราคาเปิดตัว BYD Atto 3
รุ่น Standard Range ราคา 1,099,900 บาท
รุ่น Extended Range ราคา 1,199,900 บาท
(*ราคาหลังจากได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ)
ดูรายละเอียด : https://www.reverautomotive.com/model/atto3/overview
3. Tesla Model 3 Highland 2024 (โฉมใหม่)
Tesla Model 3 Highland 2024 (โฉมใหม่)
พูดถึงรถยนต์ไฟฟ้า หรือ รถ EV จะต้องมีชื่อ Tesla (เทสล่า) มาเป็นอันดับต้น ๆ เพราะ Tesla เป็นบริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้า 100% สัญชาติอเมริกันเจ้าแรก ๆ ที่เต็มไปด้วยสมรรถนะและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ซึ่งล่าสุด Tesla Model 3 ก็เปิดตัวโฉมใหม่ในรุ่นปีล่าสุด Tesla Model 3 HIGHLAND 2024 สปอร์ตซีดาน 4 ประตูรูปทรงโฉบเฉี่ยวที่มีมิติตัวรถกว้างขึ้นและยาวขึ้นกว่าเดิม ปรับโฉมทั้งภายนอกและภายใน เช่น ไฟหน้า LED ดีไซน์ใหม่ เพิ่มกระจกแบบลดเสียงรบกวน เพิ่มเครื่องเสียงลำโพง 17 ตัว เพิ่มจอมัลติมีเดียขนาด 8 นิ้ว สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง เป็นต้น
ด้านระบบ Autopilot ที่เป็นฟีเจอร์เด่นของ Tesla ก็ได้รับการอัปเกรดไปอีกขั้น ด้วยการอัปเกรด HW 4.0 มีฟีเจอร์ขับขี่อัจฉริยะ เช่น ระบบขับอัตโนมัติ ตามเส้นทางที่กำหนดไว้ ระบบเปลี่ยนเลนอัตโนมัติ ระบบถอยจอดรถอัตโนมัติ ระบบเรียกรถมาหา เป็นต้น
Tesla Model 3 ออกมาทั้งหมด 2 รุ่นย่อย คือ
– Standard Range ขับเคลื่อนล้อหลัง พละกำลังสูงสุด 283 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร / ชั่วโมง 6.1 วินาที ระยะทางวิ่งสูงสุด 513 กิโลเมตร
– Long Range ขับเคลื่อน 4 ล้อ พละกำลังสูงสุด 444 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 559 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร / ชั่วโมง 4.4 วินาที ระยะทางวิ่งสูงสุด 629 กิโลเมตร
ราคา Tesla Model 3 Highland 2024
รุ่น Standard Range เริ่มต้น 1,599,000 บาท
รุ่น Long Range AWD เริ่มต้น 1,899,000 บาท
ดูรายละเอียด : https://www.tesla.com/th_th/model3
4. Tesla Model Y
Tesla Model Y
อีกหนึ่งรุ่นยอดนิยมในไทยจาก Tesla คือรุ่น Model Y เป็นรถยนต์ไฟฟ้าสไตล์ Compact SUV 5 ประตู 5 ที่นั่ง มีมิติตัวถังสูงและกว้างกว่า Model 3 (แต่กะทัดรัดกว่า Tesla Model X) โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่ดูสปอร์ต มาพร้อมหลังคากระจก Panoramic Roof แบบเต็มบาน พร้อมเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยตามแบบฉบับ Tesla เปิดตัวมา 3 รุ่นย่อย เริ่มต้น 1,959,000 บาท สำหรับใครที่กำลังเล็ง Tesla Model Y แต่มองว่าราคาเกินงบ 1.5 ล้านไปมาก ล่าสุด ทาง Tesla ประเทศไทย ได้ประกาศปรับราคา Tesla Model Y ลดราคาลงถึง 260,000 บาท! ทำให้ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 1.69 ล้านบาท ถือว่าเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจเบียดราคากับแบรนด์จีนได้เลย
Tesla Model Y 2023 มีทั้งหมด 3 รุ่นย่อย
– Rear-Wheel Drive ขับเคลื่อนล้อหลัง พละกำลังสูงสุด 347 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร / ชั่วโมง 6.9 วินาที ระยะทางวิ่งสูงสุด 510 กิโลเมตร
– Long Range AWD ขับเคลื่อน 4 ล้อ พละกำลังสูงสุด 514 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 493 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร / ชั่วโมง 5 วินาที ระยะทางวิ่งสูงสุด 623 กิโลเมตร
– Performance ขับเคลื่อน 4 ล้อ พละกำลังสูงสุด 534 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 660 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร / ชั่วโมง 3.7 วินาที ระยะทางวิ่งสูงสุด 582 กิโลเมตร
ราคา Tesla Model Y 2023
รุ่น Rear-Wheel Drive จากเดิมเริ่มต้น 1,959,000 บาท เหลือ 1,699,000 บาท
รุ่น Long Range AWD จากเดิมเริ่มต้น 2,259,000 บาท เหลือ 1,999,000 บาท
รุ่น Performance AWD จากเดิมเริ่มต้น 2,509,000 บาท เหลือ 2,299,000 บาท
ดูรายละเอียด : https://www.tesla.com/th_th/modely
5. ORA Good Cat
ORA Good Cat
ORA Good Cat เป็นรถไฟฟ้าภายใต้เครือ Great Wall Motors (GWM) แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้ายักษ์ใหญ่จากประเทศจีน เปิดตัวครั้งแรกในไทย 29 มิถุนายน 2565 โดดเด่นด้วยดีไซน์โค้งมนที่ดูน่ารักสะดุดตา ขนาดกะทัดรัดแต่ภายในกว้างขวาง อยู่ในกลุ่ม B-segment 5 ประตู 5 ที่นั่ง มีหลังคากระจก Panoramic Sunroof เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า มีหน้าจอเครื่องเสียง ระบบสัมผัส Touchscreen ขนาด 10.25 นิ้ว มาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยครบครัน เช่น ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ ระบบช่วยรักษารถให้อยู่ในเลน ระบบช่วยลงทางลาดชัน ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง เป็นต้น พร้อมรับประกันแบตเตอรี่ High-Voltage นาน 8 ปี หรือ 180,000 ก.ม.
ORA Good Cat 2023 มีทั้งหมด 3 รุ่นย่อย
– 400 PRO ขับเคลื่อนล้อหน้า พละกำลังสูงสุด 143 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 210 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร / ชั่วโมง 8.5 วินาที ระยะทางวิ่งสูงสุด 400 กิโลเมตร
– 500 ULTRA ขับเคลื่อนล้อหน้า พละกำลังสูงสุด 143 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 210 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร / ชั่วโมง 8.5 วินาที ระยะทางวิ่งสูงสุด 500 กิโลเมตร
– GT (รุ่นย่อยใหม่) ขับเคลื่อนล้อหน้า พละกำลังสูงสุด 171 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร / ชั่วโมง 8.5 วินาที ระยะทางวิ่งสูงสุด 500 กิโลเมตร
ราคา ORA Good Cat 2023
รุ่น 400 PRO เริ่มต้น 959,000 บาท
รุ่น 500 ULTRA 828,500 บาท
รุ่น GT เริ่มต้น 1,286,000 บาท
(*ราคาหลังจากได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ)
ดูรายละเอียด : https://www.gwm.co.th/ORA_GOOD_CAT.html
6. MG4 Electric
MG4 Electric
รถยนต์ไฟฟ้าจาก MG หนึ่งในแบรนด์รถยนต์ชั้นนำจากประเทศจีน ที่มีต้นกำเนิดจากอังกฤษ เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกตลาดรถไฟฟ้า EV ในไทยเลยก็ว่าได้ โดย MG4 เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่โดดเด่นด้วยระบบขับเคลื่อนล้อหลัง ขับขี่สนุกยิ่งขึ้น มาในดีไซน์สปอร์ต ดูโฉบเฉี่ยว ในรูปแบบ 5 ประตู 5 ที่นั่ง มีมิติฐานล้อใหญ่เทียบเท่ารถยนต์ระดับ C-Segment เลยทีเดียว มาพร้อมระบบความปลอดภัยครบครัน เช่น ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน ระบบควบคุมเบรกขณะเข้าโค้ง ระบบเตือนการชน พร้อมระบบช่วยเบรก เป็นต้น
MG4 Electric มีทั้งหมด 2 รุ่นย่อย (แตกต่างกันที่ฟังก์ชัน และระบบความปลอดภัย)
– รุ่น D ขับเคลื่อนล้อหลัง พละกำลังสูงสุด 170 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร / ชั่วโมง 7.5 วินาที ระยะทางวิ่งสูงสุด 425 กิโลเมตร
– รุ่น X ขับเคลื่อนล้อหลัง พละกำลังสูงสุด 170 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร / ชั่วโมง 7.5 วินาที ระยะทางวิ่งสูงสุด 425 กิโลเมตร
ราคา MG4 Electric
รุ่น X ราคา 969,000 บาท
รุ่น D ราคา 869,000 บาท
ดูรายละเอียด : https://mgcars.com/th/mg-models/new-mg4-electric/price
7. MG ES
MG ES
รถยนต์ไฟฟ้าอีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจจาก MG คือ MG ES รถทรง Station Wagon (รถเก๋งทรงยาว) 5 ประตู 5 ที่นั่ง เรียกว่าพัฒนามาจากรุ่น MG EP เลยก็ว่าได้ โดยเปลี่ยนทั้งรูปโฉมภายนอก และฟังก์ชันต่าง ๆ ดูพรีเมียม หรูหราและทันสมัยมากยิ่งขึ้น โดดเด่นด้วยห้องโดยสารกว้างขวาง จุของได้เยอะ มีแร็คหลังคาขนของได้มากขึ้น เหมาะกับการเป็นรถครอบครัว หรือรถอเนกประสงค์ มาพร้อมระบบความปลอดภัยครบครัน เช่น ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ ควบคุมระยะห่างจากรถยนต์คันหน้า กล้องรอบคัน 360 องศา ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง เป็นต้น พร้อมรับประกันแบตเตอรี่นาน 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร
MG ES ไม่มีรุ่นย่อย
ขับเคลื่อนล้อหน้า พละกำลังสูงสุด 177 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร / ชั่วโมง 8.5 วินาที ระยะทางวิ่งสูงสุด 412 กิโลเมตร
ราคา MG ES
ราคา 959,000 บาท
ดูรายละเอียด : https://www.mgcars.com/th/mg-models/new-mg-es/price
8. Neta V
Neta V
Neta V รถไฟฟ้าราคาเข้าถึงง่ายจาก NETA AUTO ผู้ผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% จากประเทศจีน โดย รุ่น Neta V รถไฟฟ้าสไตล์ City Car 5 ประตู 5 ที่นั่ง ได้เปิดตัวไทยอย่างเป็นทางการเมื่อเดือน สิงหาคม 2565 โดดเด่นด้วยดีไซน์ทันสมัย ไซซ์กะทัดรัด ขับสนุก คล่องตัว ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมือง มาพร้อมหน้าจอกลางระบบสัมผัส ขนาดใหญ่ถึง 14.6 นิ้ว มาพร้อมระบบความปลอดภัย เช่น ช่วยออกตัวทางลาดชัน และควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ระบบควบคุมการทรงตัว ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ เป็นต้น
Neta V ไม่มีรุ่นย่อย
ขับเคลื่อนล้อหน้า พละกำลังสูงสุด 95 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 150 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร / ชั่วโมง 12.2 วินาที ระยะทางวิ่งสูงสุด 384 กิโลเมตร
ราคา Neta V
ราคา 549,000 บาท* (ราคาปกติ 760,000 บาท)
*ราคาหลังจากได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ
ดูรายละเอียด : https://www.neta.co.th/th/product/NetaV
9. Nissan Leaf 2023
Nissan Leaf 2023
ถึงคิวรถยนต์ไฟฟ้าจากญี่ปุ่นกับเจ้า NISSAN LEAF รถยนต์ไฟฟ้า 100% 5 ประตู 5 ที่นั่ง จากนิสสัน แบรนด์รถชั้นนำในไทยที่เราคุ้นเคยกันดี โดย Nissan Leaf เปิดตัวครั้งแรกในไทยตั้งแต่ พฤศจิกายน 2561 เรียกว่าเป็นรุ่นพี่ในวงการ EV เลยทีเดียว จนกระทั่งในปี 2566 ก็ได้เปิดตัวรุ่น Minorchange ปรับโฉมใหม่ 2023 ที่ดูทันสมัยยิ่งขึ้น ทั้งดีไซน์ด้านหน้า ล้อแม็กลวดลายใหม่ มีเทคโนโลยีความปลอดภัย เช่น ระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ ระบบช่วยเตือนเมื่อเหนื่อยล้าขณะขับขี่ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ เป็นต้น พร้อมรับประกันแบตเตอรี่นาน 8 ปี
Nissan Leaf 2023 ไม่มีรุ่นย่อย
ขับเคลื่อนล้อหน้า พละกำลังสูงสุด 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร / ชั่วโมง 7.9 วินาที ระยะทางวิ่งสูงสุด 311 กิโลเมตร
ราคา Nissan Leaf 2023
ราคา 1,590,000 บาท
ดูรายละเอียด : https://www.nissan.co.th/vehicles/new-vehicles/leaf.html
10. VOLT CITY EV
VOLT CITY EV
VOLT CITY EV เป็นรถยนต์ไฟฟ้าไซซ์มินิจากประเทศจีน ด้วยมิติตัวรถที่มีขนาดเล็กกะทัดรัด ทำให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของชีวิตคนเมือง ใครที่กำลังหารถเล็ก ๆ เน้นขับแบบคล่องตัวสบาย ๆ ในเมือง ราคาไม่แรง เจ้า VOLT ถือว่าน่าสนใจไม่น้อย โดยออกมาทั้งหมด 2 รุ่นย่อย คือ 3 ประตู 2 ที่นั่งและ 5 ประตู 4 ที่นั่ง มาพร้อมดีไซน์ที่โดดเด่น ดูทันสมัย ภายในคอนโซลเรียบหรู มีจอแสดงข้อมูลขนาด 7 นิ้วระบบสัมผัส พวงมาลัยเพาเวอร์พร้อมปุ่มปรับฟังค์ชัน จิ๋วแต่แจ๋ว ทำความเร็วได้สูงสุดถึง 120 กม./ชม. ด้านความปลอดภัย เช่น มีถุงลงนิรภัย, ระบบการเตือนกันชนขณะขับขี่ด้วยความเร็วต่ำ, ระบบเบรก ABS, ระบบควบคุมกระจายแรงเบรก EBD เป็นต้นฃ
VOLT CITY EV มี 2 รุ่นย่อย
– รุ่น VOLT FOR TWO ขับเคลื่อนล้อหลัง พละกำลังสูงสุด 40 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 90 นิวตันเมตร ระยะทางวิ่งสูงสุด 165 กิโลเมตร (Eco Mode)
– รุ่น VOLT FOR FOUR ขับเคลื่อนล้อหลัง พละกำลังสูงสุด 46 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 102 นิวตันเมตร ระยะทางวิ่งสูงสุด 200 กิโลเมตร (Eco Mode)
ราคา VOLT CITY EV 2023
VOLT FOR TWO ราคา 365,000 บาท
VOLT FOR FOUR ราคา 425,000 บาท
ดูรายละเอียด : https://voltthailand.com/
บทสรุป
และนี่คือ 10 อันดับ รถยนต์ไฟฟ้า หรือรถ EV ที่น่าสนใจในปี 2023 – 2024 อย่างไรก็ตามก่อนจะเลือกซื้อรถไฟฟ้า อย่าลืมคำนึงถึงวัตถุประสงค์การใช้งาน ไลฟ์สไตล์การขับรถ รวมถึงเลือกเลือกแบรนด์ หรือศูนย์จำหน่ายที่มีให้สิทธิประโยชน์ตรงตามความต้องการ เพื่อได้รถไฟฟ้าที่ถูกใจ และไม่มีปัญหาในอนาคต
อ่านบทความเพิ่มเติม :